อบรม

แบบทดสอบออนไลน์ กิจกรรมส่งเสริมนิสัยการอ่าน สารานุกรมไทย เล่มที่ 44 สำหรับเยาวชนไทย พร้อมรับเกียรติบัตร จาก โรงเรียนโคกสำโรง

แบบทดสอบออนไลน์ กิจกรรมส่งเสริมนิสัยการอ่าน สารานุกรมไทย เล่มที่ 44 สำหรับเยาวชนไทย พร้อมรับเกียรติบัตร จาก โรงเรียนโคกสำโรง

แบบทดสอบออนไลน์ กิจกรรมส่งเสริมนิสัยการอ่าน สารานุกรม ไทย เล่มที่ 44 สำหรับเยาวชนไทย พร้อมรับเกียรติบัตร จาก โรงเรียนโคกสำโรง

แบบทดสอบออนไลน์ กิจกรรมส่งเสริมนิสัยการอ่าน สารานุกรมไทย เล่มที่ 44 สำหรับเยาวชนไทย พร้อมรับเกียรติบัตร จาก โรงเรียนโคกสำโรง

คำชี้แจง

โลมาสีชมพู หรือ โลมาหลังโหนก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sousa chinensis และมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น โลมาขาวเทา โลมาเผือก (Chinese white dolphin, Pacific humpback dolphin, Indo-Pacific humpbacked dolphin) จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ลักษณะทั่วไปมีรูปร่างหัวกลมมนมีปากเรียวยาว เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาดประมาณ 2.2-2.8 เมตร ตัวเมียตัวจะเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย หนักประมาณ 150-230 กิโลกรัม อายุเฉลี่ยประมาณ 40 ปี โลมาสีชมพูชอบกินอาหาร ได้แก่ ปลาขนาดเล็ก ปลาหมึก และสัตว์พวกกุ้ง เคย ปู เป็นต้น เมื่อโลมาออกหาอาหาร จะใช้สัญญาณคลื่นเสียง และมักออกล่าเป็นกลุ่ม ถึงแม้ว่าโลมาสีชมพูจะเป็นสัตว์ที่รวมกลุ่ม แต่มีความดุร้ายได้เหมือนกัน และมักแยกตัวเองออกไปจากฝูง เมื่อต้องการหาอาหาร หรือต้องกินอาหาร

ลักษณะเด่นของโลมาสีชมพู คือส่วนหลังโหนกเป็นแนวยาว 1 ใน 3 ของความยาวลำตัว จึงเรียกชื่อว่า โลมาหลังโหนก ส่วนสีชมพูที่บริเวณลำตัว จะมีสีแตกต่างกันตามช่วงอายุ วัยเด็กจะมีสีเทาดำ และจางลงเมื่อโตขึ้นตัวเต็มวัย พอเป็นวัยรุ่นจะเริ่มมีจุดสีเทาปนชมพูเกิดขึ้น บางตัวมีสีเทาประขาว แต่พออายุมากขึ้นจะมีสีออกขาวเผือก หรือสีชมพู บริเวณผิวด้านล่างจะเป็นจุด ๆ และมีสีที่สว่างกว่าด้านบน สีชมพูของโลมาไม่ได้มาจากเซลล์เม็ดสี แต่มาจากสีของหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่อุณหภูมิของร่างกายสูงเกินไป

โลมาสีชมพูชอบอยู่บริเวณชายฝั่ง หรือบริเวณที่มีความลึกไม่เกิน 20 เมตร มักจะพบว่าเป็นชายฝั่งทะเลและมีป่าชายเลนอยู่ด้วยเสมอ ๆ แต่จะต้องอยู่ในบริเวณน้ำตื้นเท่านั้น โลมาสายพันธุ์นี้ชอบอาศัยประจำที่หรือมีการย้ายที่อพยพน้อยมากและอาศัยไม่ห่างจากชายฝั่งเกินระยะ 1 กิโลเมตร ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้โดยง่าย มักจะพบเห็นตั้งแต่ตอนเช้า ซึ่งจะอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 10 ตัว ว่ายน้ำช้า ประมาณ 4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะดำน้ำประมาณ 40-60 วินาที ก่อนโผล่ขึ้นมาหายใจ บางครั้งมีพฤติกรรมดุร้าย โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ล่าเข้ามาใกล้ และเป็นโลมาอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาฝึกกันตามสวนน้ำหรือสถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ในประเทศไทยกำหนดให้โลมาสีชมพูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยพบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน

  1. ชื่อ –  นามสกุล
  2. หน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรม
  3. สถานะผู้เข้าร่วมกิจกรรม
  4. ระดับการศึกษา

ตัวอย่างเกียรติบัตร

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button

โปรดปิดตัวจำกัดโฆษณา

เพื่อการรับชมเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ